วัดมหาธาตุ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ (ดูภาพด้านล่าง)
ในบรรดาวัดหลาย ๆ แห่งของจังหวัดเพชรบูรณ์ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน มีวัดอีกหนึ่งแห่งที่มีความเก่าแก่คู่ชาวเมืองเพชรมาตั้งแต่สมัยโบราณ ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอันเป็นที่เคารพสักการะของเหล่าประชาชนและนักท่องเที่ยว ทางทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.Thongteaw.com) ของเรา จึงขอนำทุกท่านเดินทางไปเยี่ยมชมพร้อม ๆ กัน ณ วัดมหาธาตุ
“วัดมหาธาตุ” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากรเมื่อปี 2478 หลังจากนั้นประมาณ 30 ปีกรมศิลปากรจึงได้เข้าทำการบูรณะปฏิสังขรณ์จึงได้พบโบราณวัตถุต่าง ๆ รวมทั้งแผ่นจารึกที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ทำให้สามารถสันนิษฐานได้ว่าวัดมหาธาตุนั้นถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1926 โดยพระเจ้าเพชรบูรณ์ เมื่อทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเราเดินทางมาถึงวัด ภาพที่ปรากฏต่อสายตาคือความแตกต่างที่กลมกลืนกันระหว่างโบราณสถานเก่าแก่ และอาคารสร้างใหม่เด่นเป็นสง่าเคียงคู่ไปด้วยกัน เป็นเหมือนการย้ำเตือนให้คนไทยเราไม่ลืมว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมีรากฐานมาจากอดีต ดังนั้นเราทุกท่านจึงควรธำรงรักษาอดีต และปัจจุบันที่ดีงามไว้ให้คงอยู่หลงเหลือไปถึงอนาคต
|
โบราณสถานที่ยังคงพอเหลือเค้าโครงให้เห็น (ภาพที่ 1 และ 2)
หลวงพ่อเพชรมีชัย พระคู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์ (ภาพที่ 4) |
|
ความผสมผสานกลมกลืนกันระหว่างยุคสมัย ของเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
กับ
พระอุโบสถ และพระวิหารในปัจจุบัน |
ตอนนี้ได้เวลาอันสมควรแล้วตามไปดูกันดีกว่าว่าสิ่งที่น่าสนใจและมีคุณค่าทางวัฒนธรรมที่อยู่ภายในวัดมหาธาตุแห่งนี้มีอะไรกันบ้าง สิ่งแรกที่ทางทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเราจะพาทุกท่านไปรู้จักก็คือ เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบินฑ์ ก่ออิฐถือปูนยกฐานสี่เหลี่ยม องค์พระธาตุลักษณะย่อมุมไม้ยี่สิบ ภายในพระเจดีย์องค์นี้กรมศิลปากรได้ขุดพบโบราณวัตถุสมัยสุโขทัย พระพิมพ์ต่าง ๆ เครื่องถ้วยชามจีน ปะติมากรรมรูปสัตว์ แผ่นทองจารึกภาษาไทยโบราณ และโบราณวัตถุมีค่าอื่น ๆ จากการบูรณะในครั้งนั้น โดยปัจจุบันโบราณวัตถุต่าง ๆ ได้รับการเก็บรักษาภายในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ แต่เนื่องด้วยความเก่าแก่ของพระเจดีย์ทำให้ปัจจุบันเหลือเพียงส่วนองค์เจดีย์ส่วนกลางลงมาจนถึงฐานเท่านั้น(ดูภาพประกอบ)
นอกจากพระเจดีย์แล้วพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวเพชรบูรณ์มาช้านานคือ หลวงพ่อเพชรมีชัย เดิมชื่อหลวงพ่อเพชร ความเป็นมาเริ่มในครั้งสงครามระหว่างไทยกับพม่า ในอดีตเจ้าพระยาจักรีได้นำกองทัพฝ่าวงล้อมพม่ามายังเมืองเพชรบูรณ์เพื่อสะสมเสบียงอาหาร และกำลังพล เมื่อมาถึงวัดมหาธาตุจึงได้กราบขอพรจากหลวงพ่อเพชรและเปล่งเสียง “มีชัย” ร่วมกันสามครั้ง เมื่อนำกำลังเข้ารบกับพม่าก็มีชัยชนะ ชื่อของ “หลวงพ่อเพชร” จึงเป็น ”หลวงพ่อเพชรมีชัย” มาจนถึงปัจจุบัน ลักษณะของหลวงพ่อเพชรมีชัยเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะแบบสุโขทัย พระพักตร์รูปไข่ พระนาสิกโด่งยาวเรียว พระกรรณยาว พระโอษฐ์อิ่ม ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถโดยมีองค์จำลองสำหรับพุทธศาสนิกชนที่ต้องการปิดทององค์พระ ส่วนองค์จริงอยู่ทางด้านหลัง
|
องค์หลวงพ่อเพชรมีชัยทั้งองค์จริงและองค์จำลอง (ภาพที่ 1 และ 2 ตามลำดับ) |
|
อีกความงดงามจากมุมมองทางศาสนา |
“หลวงพ่องาม” พระพุทธรูปศิลปะสมัยลพบุรี ประดิษฐานเป็นพระประธานของพระวิหาร ทางทีมงานไม่มีโอกาสเข้าชมความงดงามจึงมิอาจบรรยายให้ฟังได้ จึงขออนุญาตพาทุกท่านไปกราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุที่อยู่ ณ อาคารปฏิบัติธรรมอาคารใหม่เพื่อขอพรให้เป็นสิริมงคลแทน
การเดินทาง (ขอบคุณข้อมูลการเดินทางจากหนังสือนายรอบรู้ "เพชรบูรณ์")
รถยนต์ส่วนตัว จากที่ว่าการ อ.เมือง เลี้ยวซ้ายไปตามถ.เพชรเจริญ เมื่อถึงสี่แยกให้เลี้ยวขวาแล้วตรงไปตามถ.พระพุทธบาท ข้ามสะพานข้ามคลองบน ถ.นิกรบำรุงจะเห็นวัดอยู่ทางด้านซ้าย
หมายเหตุ : ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมเก็บข้อมูล วัดมหาธาตุ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อ ธ.ค.2552
|